วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Gang cartoon Club: เรื่องย่อ เทพมรณะ (Bleach) ตอนที่ 1_อิจิโกะบุกตะลุ...

Gang cartoon Club: เรื่องย่อ เทพมรณะ (Bleach) ตอนที่ 1_อิจิโกะบุกตะลุ...: เทพมรณะ(Bleach) ดูเทพมรณะ (Bleach)   โรซากิ อิจิโกะ เด็กหนุ่มที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ วันหนึ่งเขาได้พบกับ คุจิกิ ลูเคีย ยมทูต...

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แนะนำสัตว์หางทั้ง 9 ในเรื่อง ( ดูสัตว์หางทั้ง......ตัว)


หางเดี่ยว - ชูคาคุ อยู่ในร่างของแรคคูน( ทานุกิ ) ที่สถิตร่างของกาอาระอยู่ ทำให้กาอาระมีความสามารถควบคุมทรายได้ แต่ในภาคสอง โดนแสงอุษาดึงพลังของหางเดี่ยวออกจากร่างกาอาระไปแล้ว


    สองหาง - นิบิ อยู่ในร่างของแมว สถิตในร่างของ ยูกิโด นินจาสาว ( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )


สามหาง - ซันบิ อยู่ในร่างของปลา ( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )
                                       

สี่หาง - ยอนบิ  ( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )



  ห้าหาง - โกบิ อยู่ในร่างของสุนัข ( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )
            



หกหาง - โรคุบิ( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )



เจ็ดหาง - ชิชิบิ
( ล่าสุดโดนแสงอุษาจัดการไปแล้ว )


แปดหาง - ฮาชิบิ

เก้าหาง - เคียวบิ อยู่ในร่างของจิ้งจอก เป็นปีศาจจิ้งจอกที่สถิตอยู่ในร่างของนารุโตะ โดยโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ทำการสะกดเอาไว้ ภายหลังนารุโตะได้ฝึกฝนการควบคุม จนดึงพลังของจิ้งจอกเก้าหางมาใช้ได้









โปรดติดตาม.....................ตอนต่อไปครับ
เรื่องย่อ ( นินจาจอมคาถา นารูโตะ ภาค1 ตอนเด็ก)
อุซึมากิ นารุโตะ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่มีจักระมหาศาล ได้อาละวาดทำลายหมู่บ้าน ผู้คนล้มตายไปมาก นินจาหลายคนที่อาสาไปปราบปีศาจต้องล้มตาย จนกระทั่ง โฮคาเงะรุ่นที่ 4 แสงสีเหลืองแห่งโคโนะฮะ ได้อาสาไปจัดการปีศาจจิ้งจอกเก้าหางโดยลำพัง และสามารถผนึกจักระของจิ้งจอกเก้าหางเอาไว้ในร่างของเด็กทารกคนหนึ่ง แต่ก็ต้องเสียสละชีวิตของตนเองไปเช่นกัน เด็กทารกคนนั้น ก็คือ อุซึมากิ นารุโตะ

      








นารุโตะ เติบโตมาพร้อมกับความรังเกียจของชาวบ้าน ที่ไม่ยอมคบหากับเขาเนื่องจากมีปีศาจร้ายอยู่ในตัว แต่นารุโตะไม่นึกเสียใจแต่พยายามทำให้คนในหมู่บ้านยอมรับตัวเขา โดยที่มี ครูอิรุกะ ที่คอยดูแลสั่งสอนเขาให้เติบโตเป็นนินจาที่ดี














ช่วงเวลาที่นารุโตะเติบโตขึ้นมา อุจิวะ ซาสึเกะ ลูกชายแห่งตระกูลอุจิวะ ก็เติบโตมาด้วยความพยาบาทต่อพี่ชาย อิทาจิ ที่สังหารเพื่อนสนิท และพ่อแม่ของตัวเอง เพื่อใฝ่พลังที่ไม่สิ้นสุด และได้แยกตัวจากหมู่บ้านไปเข้ากลุ่มแสงอุษา ซาสึเกะมีชีวิตเพื่อแก้แค้นพี่ชายเท่านั้น ทำให้เขาค่อนข้างเก็บตัวเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่นารุโตะก็แอบนับถือเขาอยู่เงียบๆ เพราะคิดว่าตนเองกับซาสึเกะนั้นคล้ายกันตรงที่ต่างก็ไม่มีพ่อและแม่ ความเก่งกาจของซาสึเกะ ทำให้นารุโตะตั้งเป้าหมายจะเป็นคู่แข่งของซาสึเกะให้ได้ นอกจากนั้น ซากุระ นินจาหญิงที่นารุโตะหลงรัก ก็ไปชอบซาสึเกะซะอีก ทำให้นารุโตะกลายเป็นเพื่อนคู่รักคู่กัดกับซาสึเกะมาตลอด

หลังการสอบเกะนินครั้งแรก นารุโตะไม่ผ่านและเสียใจมาก แต่ก็ได้รับกำลังใจจากครูอิรุกะเป็นผ้าคาดหัวอันแรกของเขา ทำให้เขากลับมามุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนวิชายิ่งขึ้น เพื่อความฝันสูงสุดที่จะเป็นโฮคาเงะ อย่างรุ่นที่ 4 ให้ได้
ภารกิจแรก หลังได้เป็นเกะนิน นารุโตะได้อยู่ทีม 7 ร่วมกับ ซาสึเกะ และ ซากุระ โดยมีคาคาชิ เป็นอาจารย์ และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจระดับ C คือปกป้องทซึนะ ช่างก่อสร้างจากแคว้นนามิคุนิ แต่ภารกิจนี้ไม่ง่ายซะแล้ว เพราะมีนินจาคนอื่นพยายามจะลอบสังหารทซึนะ ก็คือ ซาบุซะ นินจาฝีมือสูงจากแคว้นมิซึคุนิ คาคาชิเสียท่าซาบุซะถูกกักในคุกน้ำ นารุโตะ และ ซาสึเกะ ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อช่วยคาคาชิ จนคาคาชิออกมาได้ คาคาชิจึงจัดการซาบุซะ แต่ก็มีหนุ่มน้อย ฮาคุ จากคิริงาคุเระชิงสังหารซาบุซะไปก่อนแล้วเอาร่างซาบุซะกลับไป

















ที่จริงแล้ว หนุ่มน้อยคนนั้นมาช่วยซาบุซะ โดยสังหารหลอกๆ แค่คาคาชิก็ไม่ตายใจ ให้นารุโตะฝึกวิชาเพิ่มเติม จน ซาบุซะและ ฮาคุ กลับมาอีกครั้ง สุดท้าย คาคาชิก็สังหารฮาคุ ส่วนซาบุซะ ก็ได้จบชีวิตในเวลาต่อมา  

 ดูการ์ตูน นารูโตะนินจาจอมคาถา ภาค1 (ตอนเด็ก)


เพลง นารูโตะ นินจาจอมคาถา





โปรดติดตาม................ตอนต่อไปครับ
การสู้รบกับกองทัพอารันคาร์ ตอนที่ 2  ( ดูการ์ตูน Bleach ภาคอารันคาร์)











ในชั้นเรียน อิจิโกะได้พบกับ ฮิราโกะ ชินจิ ซึ่งเป็นไวเซิร์ด ชินจิได้ชักชวนให้อิจิโกะมาเป็นพวกเดียวกันแต่อิจิโกะกลับปฏิเสธ และในระหว่างนั้นเอง เมนอส 2 ตัว ก็ได้ปรากฏตัวมา และก็โดน ริวเคน พ่อของอุริว กับ อิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นคนจัดการทั้งคู่
จากนั้น อารันคาร์ (ฮอลโลว์ที่ถอดหน้ากากออก) 2 ตนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โลกมนุษย์พร้อมกับดูดกลืนวิญญานมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก แช้ดกับอิโนะอุเอะจึงต้องไปหยุดยั้ง แต่แช้ดก็ถูกยามี่ หนึ่งในอารรันคาร์ที่มาบุกทำลายจนแขนขาด จนอิจิโกะต้องมาช่วย แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยอิจิโกะร่างสีขาว แต่โชคดีที่โยรุอิจิกับอุราฮาร่ามาช่วยทัน ต่อมา ยูมิจิกะ อิกคาคุ ฮิซึกายะ รันงิคุ และลูเคียก็ได้มาโลกมนุษย์ พร้อมกับอธิบายเรื่องเมนอส กับ อาร์รันคาร์ให้อิจิโกะฟัง ในขณะเดียวกันนั้น กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค เอสปาด้าหมายเลข 6 ก็ได้บุกไปโลกมนุษย์ พร้อมกับ นาคีม อิลฟอร์ท เอโดราโด้ เชาหลง และดีรอย ทำการต่อสู้กับ เร็นจิ รันงิคุ อิคาคุ ลูเคีย และ โทชิโร่ ทั้งหมดถูกกำจัดหมดเว้น กริมจอว์ อิจิโกะก็กำลังจะสู้กับกริมจอว์พอดี แต่กริมจอว์นั้นโทเซ็นมารับกลับไปก่อน จากเหตุการณ์นี้ อิจิโกะได้ไปหาพวกไวเซิร์ดเพื่อที่จะหาวิธีกำราบฮอลโลว์ในตัวเขา ทำให้เขาต้องต่อสู้กับอีกด้านหนึ่งของเขาและสามารถเอาชนะได้ ต่อมา เขาก็ฝึกการแปลงสภาพเป็นฮอลโลว์ แต่ก็แปลงได้นานแค่ 4 วินาที ต่อมาไอเซ็นได้สร้างโฮเงียคุได้สำเร็จและเอาไปร่วมร่างกับคนที่มีพลังมากกว่าหัวหน้า13หน่วยพิทักษ์ ชื่อว่า วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า
หลังจากนั้นไอเซ็นได้ส่งอารันคาร์ 4 ตน ซึ่งได้แก่ กริมจอว์ ยามี่ วอนเดอร์ไวซ์ และลูปี ไปยังโลกมนุษย์ จึงได้เกิดการปะทะกัน ระหว่าง อารันคาร์กับยมทูต ผลออกมาก็คือ อุราฮาร่าเล่นงานยามี่ซะยับเยิน วอนเดอร์ไวซ์ยังคงนั่งเอ๋อต่อไป ลูปี ถูกฮิซึกายะจัดการ ส่วนกริมจอว์ถูกชินจิซ้อม และ ในระหว่างนั้นเอง อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ ได้มาห้ามกริมจอว์ไว้เนื่องจากภาระกิจชิงตัวโอริฮิเมะจบแล้ว อารันคาร์ทั้ง 5 จึงเดินทางกลับลาส์นอเช่ไป
หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าโอริฮิเมะถูกอารันคาร์ลักพาตัวไป ก็ได้คิดจะไปช่วยแต่ถูกหัวหน้าใหญ่แห่งโซลโซไซตี้ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ห้าม จึงต้องเดินทางกลับไปกันหมดทุกคน เหลือแต่อิจิโกะคนเดียว ซึ่งเขาก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะ เมื่อ อุริวกับแช้ดรู้ข่าว ก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะพร้อมกับอิจิโกะด้วย

ฮูเอโก้ มุนโด้
ทั้ง อิจิโกะ อิชิดะ แช้ด ก็บุกไปยัง ฮูเอโก้ มุนโด้ สถานที่พำนักของเหล่าฮอลโลว์ พวกเขาเดินทางต่อไปจนกระทั่งถึง ลาส์ นอเช่ ปราสาทที่พำนักของเหล่าเอสปาด้า ที่นั่นเอง ทั้งหมดก็ได้พบกับ เนลทู หรือ เนล ฮอลโลว์ตัวน้อย กับ ฮอลโลว์หน้าตาประหลาด อย่าง คอนโด้ แจ็ค และ เปสเช่ ซึ่งฮอลโลว์ทั้ง 3 ตนนั้นก็ไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใด จากนั้น เร็นจิ กับ ลูเคีย ที่เบียคุยะส่งมานั้น ก็ตามมาสมทบกับพวกอิจิโกะทีหลัง ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไปตามทางเข้าช่องต่างๆ อิจิโกะเดินทางร่วมกับเนล ระหว่างทางอิจิโกะได้ต่อสู้กับดอลโดนี่ เอสปาด้าตกชั้น เบอร์ 103 และเอาชนะได้ ส่วนอิชิดะ กับ เปสเช่ ก็เอาชนะ จิรุตจิ ธันเดอร์วิช เอสปาด้าตกชั้นอีกคนได้ด้วย "เซเล่ชไนเดอร์" ส่วนแช้ดสู้กับ กันเทนไบน์ มอสเคด้า และแช้ดได้ใช้ความสามารถใหม่ "บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร)" ล้มมอสเคด้าได้สำเร็จ แต่ทั้งคู่กลับโดน นอยโทร่า จิลก้า เอสปาด้าหมายเลข 5 ทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
อีกด้านหนึ่ง ลูเคียก็เจอศึกหนักพบกับ อาโรนีโร่ อัลลูเอรี่ เอสปาด้า หมายเลข 9 โดยปลอมตัวเป็น ชิบะ ไคเอ็น อดีตรองหัวหน้าหน่วย 13 ที่น่าจะตายไปแล้ว ให้ลูเคียตายใจ จนสามารถโจมตีลูเคียให้บาดเจ็บอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ลูเคียก็สามารถเอาชนะได้ชนิดที่บาดเจ็บหนักจนสลบไป ขณะเดียวกัน เร็นจิ กับ คอนโด้แจ้ค ปะทะกับ ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์ เอสปาด้าหมายเลข 8 ส่วน อิจิโกะ พบกับ อุลคิโอร่า เอสปาด้า หมายเลข 4 อุลคิโอร่าทักทายด้วยการบอกข่าวว่าลูเคียตายไปแล้ว ซึ่งทำให้อิจิโกะ โกรธมาก จึงเกิดการต่อสู้กัน อิจิโกะกลับพลาดท่า เมื่อถูก "ซีโร่" จากอุลคิโอร่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อีกด้านหนึ่ง เร็นจิก็ต่อสู่อย่างเต็มที่ แต่ก็ทำอะไรซาเอลไม่ได้ โชคยังดีที่อิชิดะตามมาสมทบทัน ทั้งคู่จึงต้องจับมือกันเพื่อโค่นซาเอลให้ได้ แต่ซาเอลได้ใช้ความสามารถของดาบฟันวิญญาณของตน กำราบทั้งสองคนจนหมอบ
ในขณะเดียวกัน กริมจอว์ แอบช่วยโอริฮิเมะออกจากวัง แล้วก็พาเธอไปรักษาของอิจิโกะที่กำลังนอนไร้สติ แต่อุลคิโอร่ามาพบเข้า จึงเกิดการต่อสู้กันระหว่างกริมจอว์กับอุลคิโอร่า อุลคิโอร่าเป็นฝ่ายพลาดท่าถูกกักขังโดยกริมจอว์ จากนั้นอิจิโกะที่พื้นตัวมาพอดีก็ได้หันดาบเข้าใส่กริมจอว์ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือด อิจิโกะถึงขั้นต้องสวมหน้ากากแปลงเป็นฮอลโลว์ เข้าสู้กับกริมจอว์ในสภาพปลดปล่อยดาบ ซึ่งอิจิโกะสามารถเอาชนะได้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกริมจอว์ถูกคมดาบของนอยโทร่าเข้าไป จากนั้น อิจิโกะจึงหันดาบเข้าสู้กับนอยโทร่า แต่อิจิโกะก็ไม่สามารถฟันทะลุผิวนอยโทร่าได้ ซ้ำยังโดนอัดจนบาดเจ็บหนัก ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้อยู่ ร่างของ เนล ฮอลโลว์ตัวน้อยเกิดความผิดปกติ กลับขยายร่างกลายเป็น เนลิเอล โท โอเดลชแวงค์ เนลในร่างหญิงสาวซึ่งเป็นร่างที่แท้จริงและเป็นอดีตเอสปาด้า ลำดับ 3 เนลในร่างหญิงสาวจึงอาสาเป็นคนสู้กับนอยโทร่า และเนลเป็นฝ่ายอัดโจทก์เก่าจนได้แผลใหญ่ จากนั้นเนลยิ่งได้ใจ จึงตัดสินใจปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณของตนเองออกมาโจมตีนอยโทร่า แต่ซักพักหนึ่งร่างของเนลกลับกลายเป็นเด็กน้อยตามเดิม ทำเอาฝ่ายอิจิโกะ เสียเปรียบอย่างหนัก โชคยังดีที่พวกเขาได้หัวหน้าหน่วยจากโซลโซไซตี้มาช่วยเอาไว้ ประกอบไปด้วย เคมปาจิ,อุโนะฮานะ,เบียคุยะ และ มายูริ

ซึ่งหัวหน้าหน่วยบางส่วนสามารถล้มเอสปาด้าฝีมือฉกาจได้ โดย เบียคุยะ เอาชนะ โซมารี เลอรูซ์ เอสปาดาลำดับ 7 และ มายูริ เอาชนะ ซาเอล ได้ ทำให้อิชิดะ เร็นจิ รอดพ้นจากความตายได้อย่างหวุดหวิด รวมถึงเคมปาจิก็ปราบนอยโทร่าได้สำเร็จ....ทว่า ไอเซ็น ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่า พวกเขาจะยกพลโจมตีที่เมืองคาราคุระ โดยมีจุดประสงค์ในการนำวิญญาณมนุษย์ไปสร้างกุญแจโอเค็น (กุญแจราชันย์) ปล่อยให้พวกอิจิโกะ รวมถึงยมทูตระดับหัวหน้า & รองหัวหน้าหน่วยติดอยู่ในฮูเอโก้ มุนโด้ต่อไป โดยมีอุลคิโอร่า ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น คอยเป็นคู่ต่อสู้ให้ ขณะเดียวกัน ไอเซ็น และ เอสปาด้าที่เหลือ ได้ประจันหน้ากับ บรรดายมทูตหัวหน้า & รองหัวหน้าหน่วยจากโซล โซไซตี้ ที่เหลืออยู่ ณ เมืองคาราคุระในสภาพจำลอง!!!

การสู้รบ ณ เมืองคาราคุระจำลอง.....สู่ช่วงปลายการสู้รบ ณ คาราคุระจริง
จากการต่อสู้ ปรากฎว่า เอสปาด้า,ฟราเซี่ยน รวมถึง โทเซ็น อดีตหัวหน้าหน่วย 9 เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำพวกยมทูตไป อย่างไรก็ดี ไอเซ็นก็สู้สมกับเป็นบอสประจำภาคด้วยการคว่ำพวกยมทูต แม้กระทั่งกองทัพไวเซิร์ด ล้มไปจนหมด ทันใดนั้น อิจิโกะ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากมายูริ ทำให้เขาสามารถออกจากฮูเอโกมุนโด้ ไปยังเมืองคาราคุระปลอมได้ เมื่อมาถึงที่นั่น เขาก็ได้ต่อสู้กับไอเซ็น ร่วมกับ อิชชิน อุราฮาร่า และ โยรุอิจิ ที่มาสมทบทีหลัง แต่ก็ไม่สามารถล้มได้ ซ้ำยังปล่อยให้ไอเซ็นที่สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับโฮเงียคุได้ กับ งิน หนีไปยังเมืองคาราคุระของจริงซะิอีก หลังจากนั้น อิจิโกะ ก็ได้ฝึกคอร์สพิเศษด้วยการเข้าไปยังโลกของซันเงสึอีกครั้ง จนกระทั่งฝึกฝนวิชาเก็ตซึงะเท็นโชขั้นสุดท้ายได้สำเร็จ และมุ่งหน้าไปยังเมืองคาราคุระจริง ซึ่งก่อนหน้าที่อิจิโกะจะมาถึงนั้น รันงิคุ ปรากฏตัวขึ้น ณ ที่นั่น เพื่อที่จะเคลียร์ปัญหากับงิน แต่ไม่สำเร็จ และ จากนั้น งิน ได้ตัดสินใจใช้คมดาบหักหลังไอเซ็น และพยายามที่จะแย่งชิงโฮเงียคุจากร่างของไอเซ็น แต่ก็ไม่สำเร็จ ซ้ำยังบาดเจ็บหนักอีก
และแล้วการต่อสู้ระหว่าง อิจิโกะ กับ ไอเซ็น ได้เกิดขึ้นอีกคำรบ และด้วยความสามารถของอิจิโกะที่อัพเกรดขึ้น ทำเอาไอเซ็นที่มั่นใจในพลังของตนเองถึงกับเจ็บหนักและออกอาการหัวเสีย จากนั้นอิจิโกะได้ทุ่มสุดกำลัง กอปรกับการช่วยเหลือของอุราฮาร่า ทำให้พวกเขาสามารถสยบผู้นำของเหล่าอารันคาร์ลงได้สำเร็จ.... หลังจากการสู้รบ ไอเซ็น ถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 18,800 ปี (ภายหลังปรับเพิ่มเป็น 20,000 ปี) ในขณะที่ อิจิโกะ นั้น สูญเสียพลังยมทูตทั้งหมด กลายเป็นแค่เด็กม.ปลายธรรมดาๆคนหนึ่ง...............   อ่านต่อตอนต่อไปนะครับ    

แนะนำตัวละครในโซลโซไซตี้

ตัวละคร-ยมทูต
              ดูการ์ตูนตัวอย่าง

หน่วยที่ 1 หัวหน้า:ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ
หัวหน้าหน่วย 1 และเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ควบคุมอีก 12 หน่วยอีกที
ดาบฟันวิญญาณ:ริวจินจักระ(วิถีเพลิงชำระ) ตัวดาบจะปล่อยพลังเพลิงเผาผลาญสิ่งรอบตัว เป็นดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่เก่าแก่ และ ทรงอานุภาพมากที่สุดในโซลโซไซตี้
คำปลดปล่อยดาบ:จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน
รองหัวหน้า:ซาซาคิเบะ โชจิโร่
เป็นชายตาบอด แต่สามารถรับรู้ทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ
ดาบฟันวิญญาณ:กอนเรียวมารุ ดาบจะเปลี่ยนรูปร่างคล้ายดาบในกีฬาฟันดาบ
คำปลดปล่อยดาบ:จงทะลวง"

หน่วยที่ 2
หัวหน้า:ซุยฟง
ชื่อเดิม ฟง เชาหลิน หัวหน้าหน่วย 2 และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นรุ่นน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 วันหนึ่ง เธอได้รับข่าวว่าโยรุอิจิได้ทำการช่วยเหลือนักโทษเนรเทศอย่าง "อุราฮาร่า คิสึเกะ" จนโดนปลดจากหัวหน้าหน่วยปราบปราม ทำให้ซุยฟงแทบจะสิ้นศรัทธาในตัวของโยรุอิจิ และสาบานว่าจะจัดการโยรุอิจิด้วยตัวเอง แต่ในท้ายที่สุดซุยฟงก็ได้เผยความในใจของตนออกมา จริงๆเธอก็ยังมีศรัทธาในตัวของโยรุอิจิอยู่มากและในตอนนั้นเธอก็ต้องการที่จะไปกับโยรุอิจิเช่นกัน
ดาบฟันวิญญาณ:ซึซึเมะบาจิ ดาบกลายเป็นมีดขนาดเล็กติดที่ข้อมือและนิ้ว รูปแบบคล้ายกับเหล็กไนของแมลง เมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ทำร้ายเป้าหมายได้ครั้งหนึ่ง จะสร้างลายรอยสักขึ้นบนร่างของเป้าหมายบริเวณที่โจมตี ที่ชื่อ "โฮมงกะ" (บุปผาลายผึ้ง) ถ้าโจมตีที่จุดนั้นอีกครั้ง ก็จะปลิดชีพเป้าหมายได้ทันที
คำปลดปล่อยดาบ:ไล่ล่าเสียบสังหาร
ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):จาคุโฮไรโคเบ็น(คฑาตัวต่อสายฟ้า) จากใบมีดขนาดเล็ก เปลี่ยนไปเป็นอาวุธที่มีลักษณะเป็นเข็มขนาดใหญ่ ดูยังไงๆยังกะจรวดนำวิถียังไงยังงั้น วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะ สำหรับบังหน้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นไม่ค่อยชอบบังไคของตนเองซะเท่าไหร่ อันเนื่องจากขัดกับภาพลักษณ์ของหน่วยลับลอบสังหาร
รองหัวหน้า:โอมาเอดะ มาเระจิโยะ
รองหัวหน้าจอมตะกละ พกขนมก๊อบแก๊บเคี้ยวตลอดเวลา ซึ่งเขานั้นยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน แห่ง หน่วยลับ อีกด้ย
ดาบฟันวิญญาณ:เกะเกะซึบุริ ดาบฟันวิญญาณจะกลายร่างเป็นลูกตุ้มหนามแหลม
คำปลดปล่อยดาบ:จงบดขยี้

หน่วยที่ 3
หัวหน้า:อิชิมารุ งิน
เป็นชายตาตี่ขี้เล่นยิ้มตลอดแฝงความเจ้าเล่ห์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร สนิทกับรันงิคุในฐานะเพื่อนสมัยเด็กและเป็นคนตั้งวันเกิดให้รันงิคุด้วย อตีดเป็นรองหัวหน้าของไอเซ็น(หน่วย 5 ) ปัจจุบันร่วมมือกับไอเซ็น อย่างไรก็ตาม ณ เมืองคาราคุระจริง งิน ได้เปิดเผยธาตุแท้ของตนเอง ด้วยการลอบฟันไอเซ็น และพยายามชิงโฮเงียคุออกจากมือไอเซ็น ซึ่งเหตุผลที่งินมาเป็นยมทูต และติดตามไอเซ็นมาตลอดนั้น ก็เพื่อที่จะหาโอกาสในการแก้แค้นให้ักับ รันงิคุ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกพวกไอเซ็นทำร้าย เพื่อเพิ่มพลังให้กับโฮเงียคุ

ดาบฟันวิญญาณ:ชินโซ(หอกเทวะ) ตัวดาบจะพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างเร็ว
คำปลดปล่อยดาบ:เล็งสังหาร
ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):คามิชินิ โนะยาริ (ทวนลงทัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า) ตัวดาบจะพุ่งไปหาศัตรูด้วยความรวดเร็วที่ไวกว่าเสียง500เท่า และสามารถยืดออกได้ไกลถึง13km ซึ่งความสามารถที่แท้จริงของเขา อยู่ที่การหดตัวและยืดตัวด้วยความเร็วสูง และพริบตาที่ยืดหดนั้น ตัวดาบจะสลายเป็นฝุ่นผงชั่วพริบตา และ ด้านในคมดาบ มีพิษร้ายในระดับที่สามารถสลายเซลในร่างกายได้
นอกจากนี้ มีอีก1กระบวนท่าคือ"บุโทวเร็นจิ คามิชินิโนะยาริ"(หอกเทวะร่ายรำทวนลงทัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า) ทำให้ตัวดาบจะพุ่งและหดด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดประกายแสงมองตัวดาบไม่ทัน
รองหัวหน้า:คิระ อิซึรุ
เพื่อนร่วมรุ่นของ อาบาราอิ เร็นจิ และ ฮินาโมริ โมโมะ เขาคอยติดตามงิน เพื่อที่จะปกป้องไม่ให้ฮินาโมริเป็นอันตรายแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล
ดาบฟันวิญญาณ:วาบิซึเกะ (ขออภัยโทษ)ตัวดาบจะหักงอ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ดาบฟันวัตถุนั้น วัตถุที่ถูกฟันจะเพิ่มน้ำหนักสองเท่าตามจำนวนครั้งที่ฟัน
คำปลดปล่อยดาบ:จงเงยหน้าขึ้น
หน่วยที่ 4 (หน่วยรักษาพยาบาล)
หัวหน้า:อุโนะฮานะ เร็ตสึ
หัวหน้าที่สงบเรียบร้อยและมากไปด้วยความสามารถ แต่เวลาโมโหน่ากลัว สามารถข่มได้แม้กระทั่งหน่วย 11 จัดเป็นยมทูตคนหนึ่งที่มีพลังสูงมากอีกเช่นกัน
ดาบฟันวิญญาณ:มินาซึกิ เปลี่ยนดาบเป็นกระเบนยักษ์ สามารถรักษาคนเจ็บจำนวนมากโดยการกลืนคนเจ็บเข้าไปในท้องกระเบน
คำปลดปล่อยดาบ:-
รองหัวหน้า:โคเท็ตสึ อิซาเนะ
พี่สาวร่างโย่งของ โคเท็ตสึ คิโยเนะ นักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 มีความเชี่ยวชาญด้านวิถีมารเพื่อการสื่อสารภายในโซลโซไซตี้ ภายนอกจะเป็นคนแกร่ง แต่มักจะซุ่มซ่ามทำของตกบ่อย และยังชอบฝันร้ายเป็นประจำ
ดาบฟันวิญญาณ:อิเทะกุโมะ คมดาบจะงอกออกมาเป็นสามแฉก
คำปลดปล่อยดาบ: จงทะยาน
ยามาดะ ฮานาทาโร่
นักสู้ลำดับ 7 ของหน่วยที่4 เป็นเด็กหนุ่มร่างเล็ก นิสัยซุ่มซ่ามเงอะงะ ซื่อบื้อ เขาเป็นคนช่วยรักษาอิจิโกะ หลังจากการต่อสู้กับ เร็นจิอีกด้วย
ดาบฟันวิญญาณ: ฮิสะโกมารุ ตัวดาบจะกลายสภาพเป็นมีดผ่าตัด ในขณะยังไม่ปลดปล่อยดาบ เมื่อฟันแล้วจะสามารถรักษาบาดแผลได้ หากดาบมีสีแดงเมื่อไหร่จึงจะสามารถปลดปล่อยขั้นต้นได้ โดยในขั้นต้นนั้นจะปลดปล่อยบาดแผลที่ดูดซับเอาไว้จนเต็มเกจวัดออกไปทั้งหมด กลายเป็นพลังทำลายมหาศาล ซึ่งสามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งเกจเต็ม และหลังจากนั้นพลังทำลายของฮิสะโกมารุจะต่ำมากถึงมากที่สุด
คำปลดปล่อยดาบ:จงเต็ม
หน่วยที่ 5
หัวหน้า:ไอเซ็น โซสึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นคนจิตใจดี แท้จริงแล้ว เขาเป็นตัวการและผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดของเหตุการณ์บุกโซลโซไซตี้ โดยเป้าหมายของเขาก็คือ "โฮเคียคุ" ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของคุจิกิ ลูเคีย เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอว์โลว์กลายเป็นอารันคาร์ได้โดยใช้โฮเคียคุ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของเหล่าอารันคาร์ เตรียมการใช้โฮเคียคุในการสร้างกุญแจราชันย์ เพื่อไปยังอีกมิตินึงที่มีราชันย์วิญญาณซึ่งเป็นเป้าหมายของตนอยู่ อย่างไรก็ตาม แผนการของไอเซ็นกลับถูกขัดขวางโดยอิจิโกะ และอุราฮาร่า จนยอมศิโรราพ (ส่วนหนึ่งมาจากโฮเงียคุปฏิเสธตัวของไอเซ็นด้วย) ต่อมาถูกพิพากษาโดย 46 ห้องกลาง ให้ถูกจำคุก ณ ห้องใต้ดินชั้นล่างสุดเบอร์ 8 - มุเง็น เป็นเวลา 20,000 ปี (แต่เดิมตัดสินจำคุก 18,800 ปี แต่ไอเซ็นดันไปพูดจาท้าทาย เลยโดนเพิ่มโทษซะ)
เมื่อ 110 ปีก่อน เคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 5 เขาได้ร่วมมือกับ งิน ,โทเซ็น ในการหักหลัง ฮิราโกะ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย 5 ในขณะนั้น

ดาบฟันวิญญาณ:เคียวขะซุยเงสึ(กระจก บุปผา จันทรา วารี) สามารถสร้างภาพลวงตาได้ มีความสามารถในการสะกดโดยสมบูรณ์และไร้ช่องโหว่ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ผู้ที่ต้องการสะกดโดยสมบูรณ์มองเห็นการปลดปล่อยดาบเล่มนี้ครั้งหนึ่งจึงจะแสดงผล
คำปลดปล่อยดาบ:จงสลาย
รองหัวหน้า:ฮินาโมริ โมโมะ
เป็นคนที่ใช้วิถีมารเก่งมากและยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฮิซึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 10 ด้วย ฮินาโมริเคยถูกไอเซ็นช่วยชีวิตจากฮอลโลว์เมื่อยังเป็นนักเรียนในเซย์เรย์เทย์อยู่ ตั้งแต่นั้นเธอจึงรักและนับถือไอเซ็นมาก และตั้งมั่นว่าถ้าได้เป็นยมทูตเมื่อใดเธอจะเข้าสังกัดหน่วยที่ 5 ให้ได้ แต่ไม่วายเธอก็ถูกไอเซ็นทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ในภาคอารันคาร์ เธอกลับมาอีกครั้งด้วยการร่วมด้วยช่วยต่อสู้กับรันงิคุ ในการต่อกรกับฟราเซี่ยนของฮาริเบล แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากผลลัพธ์ของเคียวขะซุยเงสึของไอเซ็น ทำให้เธอถูกคมดาบของฮิซึกายะแทงทะลุกลางอก
ดาบฟันวิญญาณ:โทบิอุเมะ ดาบจะยืดออก และมีกิ่งก้านออกมาคล้ายต้นท้อ สามารถปล่อยลูกพลังออกมาโจมตีศัตรู
คำปลดปล่อยดาบ:จงแตกออก
 

หน่วยที่ 6 หัวหน้า:คุจิกิ เบียคุยะ
หัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง เขามีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน เขาเป็นคนเงียบครึม เคร่งครัดในกฏระเบียบ ไม่ชอบแสดงความรู้สึกทางสีหน้า มักจะเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ เขารับลูเคียมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เนื่องจากคำสัญญาของเขากับ "ฮิซานะ" ซึ่งเป็นพี่สาวที่แท้จริงของลูเคียและเป็นภรรยาของเขาซึ่งขอให้น้องสาวของตนเรียกเบียคุยะว่าพี่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแหกกฎของตระกูล เขาจึงสาบานต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ว่าจะไม่ทำผิดกฎอีกเป็นครั้งที่สอง
ดาบฟันวิญญาณ:เซมบ้ง ซากุระ ใบดาบกลายเป็นใบมีดเล็กๆนับพันที่สามารถฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว แสงของใบมีดนี้จะเปล่งประกายระยิบระยับราวกับกลีบซากุระ
คำปลดปล่อยดาบ:จงโปรยปราย

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) : เซมบ้ง ซากุระ คาเงโยชิ (เงาหาญซากุระพันกลีบ) ตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมาก
รูปแบบที่ 1 เบียคุยะจะปล่อยดาบจมลงดิน และผุดขึ้นมาเป็นคมดาบยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วยเรียงเป็นแถวยาวจนลับสายตา ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น
รูปแบบที่ 2 เซ็นเคย์ (เงาพิฆาต) ตัวกลีบคมดาบจะรวมกันกลายเป็นดาบเล็กๆนับร้อยล้อมรอบสถานที่ต่อสู้ ซึ่งเบียคุยะสามารถควบคุมให้ดาบพุ่งเข้ามาหาตัวเองหรือคู่ต่อสู้ได้ตามต้องการ เป็นการโจมตีที่จะปิดช่องทางหนีของศัตรู และจะเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว
รูปแบบที่ 3 ชูเคย์ (เงาสุดท้าย) ฮาคุเทย์เค็น ( ดาบจักรพรรดิขาว) กลีบคมดาบทั้งหมดจะมารวมกันเป็นดาบเดียว มีแสงเป็นรูปปีกสีขาวแตกออกสองข้าง
รองหัวหน้า:อาบาราอิ เร็นจิ
เจ้าของผมแดง แว่นตาราคาแพง และรอยสักบนหน้าผากกับลำตัว มีนิสัยบ้าระห่ำและเกลียดการพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดๆ เขาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ฮินาโมริ โมโมะ และ คิระ อิซึรุ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่าของ คุจิกิ ลูเคีย มาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาในเซย์เรย์เทย์ ณ เมืองลูคอน อินุซึริ เขตที่ 78 ซึ่งเต็มไปด้วยสลัม
ดาบฟันวิญญาณ:ซาบิมารุ ดาบที่มีใบมีดจำนวนมากต่อกัน เกิดจากการเชื่อมของพลังกดดันวิญญาณของเจ้าของ จึงสามารถยืดได้คล้ายกับดาบแส้ที่เป็นอาวุธของยุโรปโบราณ สามารถยืดออกไปโจมตีศัตรูตั้งแต่ระยะกลางถึงไกลในระดับหนึ่งได้ และมีท่าลับ "ผนึกเขี้ยวบาบูนพิฆาต" ที่เป็นการใช้ใบมีดพุ่งเข้าโจมตีศัตรูพร้อมกันรอบทิศทางได้
คำปลดปล่อยดาบ:จงร่ำร้อง

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ฮีฮีโอ ซาบิมารุ(ราชันย์บาบูน) ดาบจะกลายสภาพเป็นโครงกระดูกงูยักษ์ ซึ่งโครงกระดูกจะต่อกันเป็นจุดๆเช่นกัน และชุดที่เร็นจิใส่จะมีขนสัตว์คลุมไหล่ สามารถโจมตีได้แรงขึ้น นอกจากนี้ส่วนโครงกระดูกก็สามารถแยกออกจากกันได้อย่างอิสระมากจนสามารถใช้หลบการโจมตีได้
หน่วยที่ 7
หัวหน้า:โคมามูระ ซาจิน
หัวหน้าหน่วยร่างยักษ์ มีหน้าตาเป็นหมาป่า เขาจึงสวมหน้ากากปิดมันไว้ ได้รับการช่วยเหลือจาก "ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ" หัวหน้าหน่วยที่ 1 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" ทำให้เขาได้เข้าเป็นยมทูต โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง"โทเซ็น คานาเมะ"อยู่ด้วยเช่นกัน หลังจากศึกกับซาราคิ ที่ทำให้หน้ากากของเขาแตกจนเผยโฉมหน้าที่แท้จริงครั้งแรก เขาก็มีความมั่นใจมากขึ้น และไม่อายจนต้องใส่หมวกปกปิดหน้าตาอีกต่อไป เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง และรักเพื่อนกับพวกพ้อง นอกจากนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นสุนัข ชื่อว่า โกโร่
ดาบฟันวิญญาณ:เท็นเค็น (สวรรค์ลงทัณฑ์) เป็นดาบขนาดใหญ่ มีมือของปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)ออกมาถือดาบนั้นเพื่อฟันโจมตี มีพลังทำลายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
คำปลดปล่อยดาบ:จงคำราม

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):โคคุโจเท็นเก็นเมียวโอ (เทพเมียวโอผู้ลงทันฑ์อาญาสวรรค์แห่งโลกันต์นรก) ปรากฏร่างของเทพเมียวโอขนาดใหญ่ยักษ์ เคลื่อนไหวโจมตีคู่ต่อสู้ตามการเคลื่อนไหวของโคมามูระ
รองหัวหน้า:อิบะ เท็ตสึซาเอมอน
รองหัวหน้าที่มีหน้าตาราวยากูซ่า เคยอยู่ในหน่วยที่ 11 มาก่อน มีความทะเยอทะยานฝึกฝนตนเองเพื่อให้เป็นรองหัวหน้าเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละทิ้งสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง
อิคคังซากะ จิโรโบ
ได้รับฉายา เคียวสายลม เป็นผู้ใช้อาวุธบินเก่งสุด
ดาบฟันวิญญาณ:ซันการาซึ(อีกาทะลวง)
คำปลดปล่อยดาบ:จงกระพือ

หน่วยที่ 8
หัวหน้า:เคียวราคุ ชุนซุย
หัวหน้าหน่วยจอมเรื่อยเปื่อยผู้นี้ มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบดื่มเหล้า แถมยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสันบาดตาบาดใจ แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งมากทีเดียวคนนึง เขาเกิดในตระกูล 1 ใน 4 ขุนนางชั้นสูง ร่ำเรียนวิชามาจาก ยามาโมโตะ เก็นริวไซ พร้อมๆกับ อุคิทาเกะ จูชิโร่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่จบจากสถาบัน เคียวราคุเป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งประหารคุจิกิ ลูเคีย จึงตัดสินใจร่วมมือกับ อุคิทาเกะ ทำลายโซเคียคุในที่สุด
ดาบฟันวิญญาณ:กะเท็นเคียวคตสึ (บุปผาสวรรค์กระดูกคลุ้มคลั่ง) กลายเป็นดาบยักษ์คู่ 2 เล่ม มีลักษณะความสามารถดังนี้
- แบบที่ 1 บัชโชโคมะ(ลูกข่างเอิมละอาหรรษาโดดเดี่ยว): เพิ่มความเร็วในการโจมตี และสามารถสร้างความปั่นป่วนด้วยการหมุนรอบตัวเองทำให้เกิดพายุได้ และคนที่โดนพายุนั้นครอบร่างกายแล้วจะรู้สึกเฉื่อยชา จนไม่สามารถขยับได้
- แบบที่ 2 คาเงะโอนิ(ปีศาจเงา): สามารถทำให้ตัวผู้ใช้สามารถแฝงตัวไปในเงาคู่ต่อสู้ได้ หรือสามารถแทงดาบลงบนเงาศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้
- แบบที่ 3 ทาคาโอนิ(ปีศาจสูง): ถ้าใครอยู่สูงที่สุดหรืออยู่สูงกว่าคู่ต่อสู้จนจบเกมส์ของกะเท็นเคียวคตสึ ก็จะเป็นผู้ชนะ ถ้าต่ำกว่าก็แพ้และต้องตาย(แต่ตอนที่เคียวราคุเล่นกะสตาร์คนั้น เขาได้เปลี่ยนเกมส์ก่อนจึงยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ)
- แบบที่ 4 อิไรโอนิ(ปีศาจสี): จะเป็นการเล่นเกมกับฝ่ายตรงข้าม โดยมีกติกาที่ว่า จะสลับกันเลือกสีที่มีความความ "เสี่ยง" ต่อ "ตัวเอง" ขึ้นมาหนึ่งสี ยิ่งสีนั้นมีเยอะบนร่างกายของเรา เราจะสามารถโจมตีใส่สีนั้นบนตัวศัตรูได้แรงยิ่งขึ้น

คำปลดปล่อยดาบ : ดอกไม้โปรยปรายในสายลม เทพบุปผาคร่ำครวญ วายุสวรรค์ปั่นป่วน มารฟ้าเสสรวล
รองหัวหน้า:อิเสะ นานาโอะ
รองหัวหน้าสาวแว่น นิสัยเจ้าระเบียบเอาการเอางานผิดกับหัวหน้าลิบลับ เธอกลับเป็นคนคุมหัวหน้าซะเอง ความเก่งก็อยู่ในขั้นสูงไม่เบา อีกทั้งยังเป็นรองประธานสมาคมยมทูตสตรีแห่งโซลโซไซตี้

เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ
นักสู้ลำดับ 3 หน่วย 8
หน่วยที่ 9
หัวหน้า:โทเซ็น คานาเมะ
หัวหน้าหน่วยตาบอด ผมทรงเดธล็อค อดีตเคยมีหญิงสาวที่หลงรักอยู่แต่หญิงสาวคนนั้นถูกฆ่าโดยสามีของหล่อนเอง และมีเพื่อนสนิทคือ "โคมามูระ ซาจิน" และต่อมาเขาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าของหน่วยที่ 9 เขาเป็นคนที่รักความยุติธรรมมาก แต่กลับไปเข้าร่วมกับไอเซ็น โดยในศึกที่เมืองคาราคุระปลอม เขาได้ใช้พลังของฮอลโลว์ ทำให้ตัวเขาสามารถมองเห็นได้ แต่ก็พ่ายแพ้ ให้กับ ชูเฮย์ และ ถูก ไอเซ็น กำจัดในที่สุด

ดาบฟันวิญญาณ:ซึซึมูชิ (จิ้งหรีด) สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกมา ทำให้ผู้ที่ได้ยินหมดสติ หรือ เบนิฮิโค (ตั๊กแตนสีเลือด) จะสร้างใบดาบจำนวนมากและสาดใส่คู่ต่อสู้แบบห่าฝน
คำปลดปล่อยดาบ:จงร่ำร้อง

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):เอ็นมะโคโรกิ (จิ้งหรีดพยายม) สร้างห่วงขึ้นมา 5 ห่วง รวมเป็นโดมขนาดใหญ่สีดำ ครอบคลุมผู้ใช้ คู่ต่อสู้ และบริเวณพื้นที่ต่อสู้ทั้งหมด ทำให้คู่ต่อสู้ที่ถูกขังอยู่ในโดม จะสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมด(รูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส และสัมผัสพลังกดดันวิญญาณ)ทำให้ยากที่จะตอบโต้ผู้ใช้ได้
รีเซอเร็คชั่น (ปลดปล่อยดาบแบบอารันคาร์) โดยรวมเหมือนเดิม เพียงแต่สวมหน้ากากไร้หน้าเข้าไป
รองหัวหน้า:ฮิซางิ ชูเฮย์
รองหัวหน้าหน่วย 9 ให้ความนับถือโทเซ็นมาก แอบชอบรันงิคุอยู่ เคยสอบเข้ารร.ยมทูตถึง2ครั้งถึงเข้าได้ และเป็นรุ่นพี่ปี6ของ อาบาราอิ เร็นจิ ,คิระ อิซึรุ, ฮินาโมริ โมโมะ สมัยเรียนรร.ยมทูต เขาเป็น รุ่นพี่ปี6 คนเดียวที่รอดจากการไปอบรมรุ่นน้อง ณ โลกมนุษย์
ดาบฟันวิญญาณ:คาเสะชินิ (สายลมมรณะ) ปลดปล่อยแล้วเป็นดาบ 2 เล่มมีโซ่เชื่อมติดกัน โดยตัวดาบมีรูปร่างโค้งงอราวเกลียวคลื่น จนชูเฮย์ไม่ค่อยชอบรูปร่างของมันเท่าไหร่ หากได้หมุนคมดาบแล้ว จะมีอานุภาพการโจมตีเป็นอย่างมาก
คำปลดปล่อยดาบ:จงสะบั้น

หน่วยที่ 10
หัวหน้า:ฮิซึกายะ โทชิโร่
ยมทูตหนุ่มน้อยอัจฉริยะ ผมสีขาวราวกับหิมะ แววตาและสีหน้าคมเข้ม ได้รับนิยมจากแฟนๆนักอ่านมากพอสมควร และนับเป็นหัวหน้าหน่วยที่อายุน้อยที่สุดในเรื่อง มีนิสัยเอาการเอางาน รับผิดชอบสูง ความสามารถด้านการใช้ดาบสูงพอๆ กับผู้ใหญ่ เขาเกิดในเมืองลูคอน เขต 1 และ เป็นเพื่อนสนิทกับฮินาโมริ ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนยมทูต แม้เขาจะเข้าโรงเรียนยมทูตหลังฮินาโมริ แต่ด้วยพลังกดดันวิญญาณที่สูงมาก จึงแซงหน้าฮินาโมริ ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 10
ดาบฟันวิญญาณ:เฮียวรินมารุ สร้างน้ำแข้งให้ออกมาในรูปมังกร และควบคุมสภาพอากาศได้
คำปลดปล่อยดาบ:จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ไดงูเร็น เฮียวรินมารุ(วงแหวนน้ำแข็งดอกบัวโลหิต) หลังจากใช้จะมีน้ำแข็งจำนวนหนึ่งห้อหุ้มแขนขวาของเขาไว้ และงอกออกไปเป็นปีก 1 คู่ ใช้ในการตั้งรับ และจะมีดอกไม้สี่แฉกออกมา โดยดอกไม้เหล่านี้จะเป็นบอกเวลาของการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) เมื่อกลีบของดอกไม้หายไปทั้งหมดปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)ก็จะสลายไป ซึ่งเมื่อฟันใส่ศัตรูน้ำแข็งจะเกาะที่ร่างของศัตรู
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบ "เซ็นเน็นเฮียวโจ" เป็นการสร้างเสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบและขังศัตรูไว้
รองหัวหน้า:มัตสึโมโตะ รันงิคุ
ยมทูตสาวสวย อึ๋ม เซ็กซี่ คนหนึ่งในเรื่อง เพื่อนสมัยเด็กของอิจิมารุ งิน เคยถูกงินช่วยไว้จากความหิวโหย ซึ่งงินยังเป็นคนที่ตั้งวันเกิดให้กับรันงิคุด้วย โดยอิงจากวันที่เธอกับงินได้พบกันครั้งแรก มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ไฮเนโกะ (แมวขี้เถ้า)" ถึงแม้ว่าจะมีหัวหน้าหน่วยอายุน้อยกว่าตัวเองแต่ก็ให้ความเคารพหัวหน้าเป็นอย่างดี มักเผลอคิดเรื่อยเปื่อยอยู่บ่อยครั้ง
ดาบฟันวิญญาณ:ไฮเนโกะ(แมวขี้เถ้า) ดาบจะกลายเป็นขี้เถ้า เข้าไปโอบล้อมศัตรูทำให้เกิดบาดแผล
คำปลดปล่อยดาบ:จงคร่ำครวญ

หน่วยที่ 11 หัวหน้า:ซาราคิ เคมปาจิ
ชายร่างยักษ์ไว้ผมทรงหนามและมีกระดิ่งห้อยที่ปลายเส้นผมจนเด่นสะดุดตา ที่ตาขวาของเขามีผ้าปิดตาที่ของงานวิจัยของหน่วยที่ 12 ผลิต เอาไว้เพื่อกัดกินพลังวิญญาณที่ส่วนเกิน เขารักการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ ถึงจะคลั่งไคล้การต่อสู้ แต่เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณได้เลย เพราะไม่รู้จักกระทั่งชื่อของดาบฟันวิญญาณของตนเอง เขาจึงใช้แต่ฝีมือของตนเองเท่านั้นไม่พึ่งพาดาบฟันวิญญาณเลย ทันทีที่เขาเข้าบรรจุใน 13 หน่วยพิทักษ์ เขาได้สู้กับคนในหน่วย 11 200 คน แล้วเอาชนะมาได้ จนกระทั่งได้ดวลกับหัวหน้าหน่วยและฆ่าอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 11 และตนเองได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 11 แทน
รองหัวหน้า:คุซาจิชิ ยาจิรุ
เด็กน้อยที่ถูก ซาราคิ เค็มปาจิ เก็บมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้ มักจะเรียกเค็มปาจิว่า เค็นจัง มีความสามารถในการวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก แต่ชอบเกาะหลังของ เคมปาจิ มากกว่า ดูๆไปเหมือนกับพ่อลูกคู่หนึ่งเลย อีกทั้งยังชอบตั้งชื่อเล่นให้คนอื่นๆตามใจชอบ รั้งตำแหน่ง ประธานสมาคมยมทูตสตรี อีกด้วย เธอเกิดที่เมืองลูคอนที่ 79 ที่ชื่อว่า "คุซาจิชิ" วันหนี่งซาราคิ เคมปาจิผู้มาจากเมืองลูคอนเขตที่ 80 ได้มาพบกับยาจิรุเข้า และตั้งชื่อให้ว่า "คุซาจิชิ ยาจิรุ" โดยคำว่า "ยาจิรุ" หมายถึงชื่อที่ต้องการให้อยู่ด้วยกันตลอดไป และเมื่อทั้งสองคนเป็นยมทูตก็ได้เข้าบรรจุอยู่ที่หน่วย 11 โดยไม่ต้องผ่านการสอบของยมทูต

มาดาราเมะ อิกคาคุ
ยมทูตหนุ่มหัวโล้น นักสู้อันดับ3 ของหน่วย11 ชื่นชอบการต่อสู้ แต่ไม่เก่งในเรื่องวิถีมาร มักถูกยาจิรุแซวตรงหัวโล้นของเขาบ่อยๆ อิกคาคุสนิทสนมกับยูมิจิกะที่เป็นนักสู้ลำดับที่ 5 ในหน่วยเดียวกัน และนอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์สอนวิชาการต่อสู้ให้กับอาบาราอิ เร็นจิอีกด้วย เป็นคนแรกที่สู้กับอิจิโกะ ในเซย์เรย์เทย์ อีกทั้งเขานั้นสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้าหน่วย ซึ่งความสามารถของเขานั้นสามารถเป็นได้ถึงระดับหัวหน้าหน่วยแล้ว แต่ด้วยเหตุผลว่าวันหนึ่งเขาได้พ่ายแพ้ ซาราคิ เคมปาจิ เขาจึงต้องการจะอยู่ใต้บังคับบัญชาของ ซาราคิ เคมปาจิ จึงไม่ได้แสดงออกไปว่ามีความสามารถ โดยกำชับให้ยูมิจิกะและเร็นจิไม่ให้บอกใคร
ดาบฟันวิญญาณ:โฮซึคิมารุ ตัวดาบจะกลายเป็นหอกที่สามารถแยกออกเป็น 3 ท่อน โดยมีโซ่เป็นตัวเชื่อม
คำปลดปล่อยดาบ:จงยืดออก

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ริวมอนโฮซึคิมารุ(โคมอสูรลายมังกร) คล้ายๆกับปลดปล่อยขั้นต้น ต่างกันตรงที่ สองส่วนแรกจะเป็นดาบมีด้ามจับ คมดาบจะโค้ง อีกส่วนเป็นใบมีดาบโค้งลายมังกร สามารถฟันทะลุร่างของศัตรูได้ทุกชนิด และเมื่อฟันไปเรื่อยๆ ลายมังกรจะมีสีแดง ไปเรื่อยๆ จนสามารถปล่อยพลังสุดยอดออกมาได้
อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ
เป็นนักสู้ลำดับ5 ของหน่วย11 ที่หลงในหน้าตาของตัวเองสุด พอใบหน้าอันงามของเขาเป็นริ้วรอย เขาจะโกรธมาก
ดาบฟันวิญญาณ: รูริอิโระ คุจาคุ (นกยูงสีไพฑูรย์) คมดาบจะกลายสภาพกลายเป็นไม้เลื้อย คอยดูดพลังวิญญาณคู่ต่อสู้ หากดูดพลังเต็มที่ กลีบดอกไม้ตามไม้เลื้อยก็จะบานสะพรั่ง คำปลดปล่อยดาบ:จงฉีกกระฉากคลุ้มคลั่ง
สำหรับ ฟูจิ คุจาคุ (นกยูงดอกฟูจิ/นกยูงบุปผาม่วง) เป็นชื่อที่ยูมิจิกะตั้งขึ้นมาเอง เพราะไม่อยากให้คนในหน่วย 11 รู้ว่าเป็นดาบฟันวิญญาณสายวิถีมาร (นักสู้หน่วย 11 คนอื่นๆ มีดาบฟันวิญญาณสายโจมตี) แถมตัวดาบก็ไม่ชอบชื่อนี้ เพราะไม่ชอบสีม่วง เลยปลดปล่อยดาบแค่ครึ่งเดียว คือ ดาบจะกลายสภาพคล้ายเคียวเกี่ยวข้าว 4 แฉก สามารถดูดพลังวิญญาณของคู่ต่อสู้ได้ และ ฮิซางิ ชูเฮย์ ก็เป็นเหยื่อมาแล้ว
คำปลดปล่อยดาบ:จงเบ่งบาน
อารามากิ มาคิโซ
ยาจิรุตั้งชื่อให้ว่า มาคิมาคิ....หนวดแหยม เขาเป็นคนพาโอริฮิเมะ อิโนะอุเอะหนีออกไป ในขณะที่ อิชิดะ กำลังสู้กับ คุโรซึจิ มายูริ
หน่วยที่ 12 (กองวิทยาการ)
หัวหน้า:คุโรซึจิ มายูริ
นักวิจัยวิปลาศ และเป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ เขามักจะใส่หน้ากากประหลาดอยู่โดยตลอดทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักใบหน้าที่แท้จริง นอกจากนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของเขายังได้รับการดัดแปลงจนสภาพไม่เหมือนกับปกติเขาชอบทำการทดลองโดยไม่นึกถึงชีวิตและจิตใจของคนอื่น เห็นได้จากการที่เขาระเบิดลูกน้องในหน่วยของตัวเองหน้าตาเฉยเพียงเพื่อจับตัวพวกเรียวกะ โดยอุราฮาร่า เป็นคนชวนให้มายูริ ซึ่งสมัยก่อนเป็นนักโทษ ให้มาร่วมทำงานในกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้
ดาบฟันวิญญาณ:อะชิโซกิจิโซ ตัวดาบจะกลายสภาพเป็นดาบสีเหลืองทองที่มีเงี่ยงแหลมออกมาคล้ายกับกริช และที่ส่วนด้ามจะมีลักษณะเป็นส่วนหัวของจิโซ (รูปเทวรูปรูปเด็ก/เณร ที่ตั้งอยู่ตามท้องถิ่นในญี่ปุ่น) ทำให้ผู้ที่ถูกฟันสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
คำปลดปล่อยดาบ:จงขีดข่วนกระชาก

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):คอนจิกิอะชิโซกิจิโซ (อะชิโซกิจิโซสีทอง) เป็นร่างของจิโซขนาดยักษ์ ที่มีส่วนช่วงล่างเป็นหนอน มีดาบจำนวนมากอยู่ที่อกและท้องและร่างมีสีทอง สามารถปล่อยพิษได้กว้างและสามารถใช้ใบดาบออกมาโจมตีได้
รองหัวหน้า:คุโรซึจิ เนม
เป็นร่างที่ถูกมายูริสร้างขึ้น มีความสัมพันธ์คล้ายๆพ่อลูกกัน เพียงแต่เนมเป็นคนดีมากกว่า เห็นได้จากการที่เธอแบ่งยาถอนพิษให้อิชิดะดื่ม และเป็นยมทูตสาวที่แต่งตัวไม่เหมือนกับยมทูตสาวคนอื่นๆ
อุราฮาร่า คิสึเกะ

หน่วยที่ 13
หัวหน้า:อุคิทาเกะ จูชิโร่
หัวหน้าของลูเคีย เขาเป็นโรคปอดตั้งแต่เด็กทำให้ผมของเขากลายเป็นสีขาว ทำให้มีสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งคนนึงทีเดียว เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก จนใครๆก็รักใคร่ และได้รับการนับถือทั้งจากคนทั้งหน่วยเดียวกันและหน่วยอื่นทั้งในด้านอุปนิสัยและความสามารถที่โดดเด่น สนิทกับ ฮิซึกายะมาก เจอหน้ากันเมื่อไหร่ซื้อขนมมาให้ฮิซึกายะเมื่อนั้น
ดาบฟันวิญญาณ:โซเกียวโนะโคโตวาริ (สัจจะมัจฉาคู่) ตัวดาบจะแยกออกเป็นสองเล่ม ซึ่งจะมีสายร้อยถึงกันที่ปลายด้ามดาบซึ่งจะมีแผ่นเครื่องรางโลหะเล็กๆห้อยติดอยู่ตามสาย และคมดาบจะมีลักษณะเป็นซี่แยกเป็นงุ้มไปด้านสัน มีความสามารถดังนี้
- รูปแบบที่1 : สามารถสะท้อนการโจมตีได้จากเครื่องรางโลหะที่ห้อยตามสายโดยการดูดซับพลังการ โจมตีจากดาบข้างหนึ่งและถ่ายโอนพลังผ่านสายเครื่องรางแล้วยิงพลังการโจมตี นั้นออกจากดาบอีกข้าง ซึ่งการโจมตีที่สะท้อนกลับไปจะรวดเร็วและรุนแรงขึ้นมาก
- รูปแบบที่2 : สามารถสร้างเกลียวคลื่นมาล้อมรอบตัวเพื่อป้องกัน(เป็นกำแพงน้ำกันการโจมตี ที่รุนแรงมากได้)และนำเกลียวคลื่นที่พลังของศัตรูมาโจมตี สร้างความเสียหายให้แก่คู่ต่อสู้ได้
- รูปแบบที่3 : สามารถใช้สายฟ้าสร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้ได้
- รูปแบบที่4 : สามารถสร้างพายุคลื่นมาใช้เป็นโล่กำบังการโจมตีให้ตนเองและคนอื่น

คำปลดปล่อยดาบ:จงเป็นโล่ให้ข้าดั่งเกลียวคลื่น จงเป็นดาบให้ข้าดั่งสายฟ้า
รองหัวหน้า:ชิบะ ไคเอ็น
เป็นคนร่าเริง รักพวกพ้อง แต่งงานและมีภรรยาแล้ว เขาได้ตายลงเนื่องมาจากถูกฮอว์โลว์ที่ฆ่าภรรยาของตนเข้าควบคุมร่างในขณะต่อสู้ และถูกฆ่าโดยคุจิกิ ลูเคีย เป็นคนที่สอนวิชาดาบให้แก่ลูเคีย
ดาบฟันวิญญาณ:เนจิบานะ (บุปผาเกลียว) มีลักษณะเป็นหอกยาวคล้ายกับสามง่ามผสมกับทวนของจีนโบราณ มีพู่ประดับ โจมตีโดยใช้น้ำที่วนอยู่โดยรอบของอาวุธพร้อมๆกับทักษะส่วนตัวของผู้ใช้
คำปลดปล่อยดาบ:น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย
ชิบะ มิยาโกะ
อดีตนักสู้ลำดับที่ 3 ภรรยาของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนที่มีรูปโฉมงดงามและมีความสามารถมาก จนลูเคียรู้สึกชื่นชมและอยากยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในวันหนึ่ง มิยาโกะได้พลาดท่าถูกฮอลโลว์สิง ทำให้เธอลงมือฆ่าพวกเดียวกันเอง และถูกฮอลโลว์ตนนั้นกลืนกินเข้าไปในที่สุด
โคสึบากิ เซ็นทาโร่
นักสู้ลำดับที่ 3(คนที่1) มักจะทะเลาะกับคิโยเนะเสมอๆ
โคเท็ตสึ คิโยเนะ
นักสู้ลำดับที่ 3(คนที่2) เป็นน้องสาวของโคเท็ตสึ อิซาเนะ รองหัวหน้าหน่วย 4
คุจิกิ ลูเคีย นักสู้ลำดับที่ 5


         

เรื่องย่อ เทพมรณะ (Bleach) ตอนที่ 1_อิจิโกะบุกตะลุยโซลโซไซตี้

เทพมรณะ(Bleach)

ดูเทพมรณะ (Bleach)

  โรซากิ อิจิโกะ เด็กหนุ่มที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ วันหนึ่งเขาได้พบกับ คุจิกิ ลูเคีย ยมทูตสาวที่กำลังไล่ล่าฮอลโล่ วิญญาณปีศาจร้ายอยู่ ต่อมาลูเคียเสียทีต่อฮอลโล่ จึงต้องถ่ายพลังทั้งหมดให้กับอิจิโกะ อิจิโกะจึงต้องรับหน้าที่เป็นยมทูตนับแต่นั้น ส่วนลูเคียที่สูญเสียพลังนั้น ก็ต้องอยู่ในร่างของมนุษย์ปกติไปก่อน จนกว่าพลังจะฟื้นขึ้นมา วันหนึ่ง โซลโซไซตี้ สถานที่พำนักของเหล่ายมทูต ได้ส่ง อาบาราอิ เร็นจิ และ คุจิกิ เบียคุยะ จับตัวลูเคียกลับไปโซลโซไซตี้รอการตัดสินโทษ ทำให้อิจิโกะ และ ผองเพื่อนผู้มีพลังพิเศษซึ่งได้แก่ อิชิดะ อุริว,แช้ด หรือ ซาโดะ ยาสึโทระ ,อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ ตัดสินใจไปช่วยเหลือลูเคีย ณ โซลโซไซตี้


ทั้งหมดนั้นก็ได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติม โดยอิจิโกะฝึกฝนกับ อุราฮาร่า คิสึเกะ ส่วน แช้ด กับ โอริฮิเมะ รับการฝึกฝนจาก ชิโฮอิน โยรุอิจิ ร่างแมวดำ หลังจากการฝึกฝนทุกคนก็เข้าไปยังโซลโซไซตี้ หลังจากผ่าน จิดันโบ คนเฝ้าประตูได้ จากนั้นก็เข้าสู่เขตลูคอนไก และที่นั่นเอง ทั้งหมดก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ชิบะ คูคาคุ ให้ส่งพวกเขาไปเซเรย์เทย์ เขตที่ทำการของเหล่ายมทูตได้ง่ายขึ้น โดยส่ง ชิบะ กันจู น้องชายของเธอคอยดูแลเป็นเพื่อน
        การมาเยือนโซลโซไซตี้ของพวกเขานั้น พวกเขาต้องแยกย้ายและต่อสู้กับยมทูตแต่ละคน เริ่มจาก:

-อิจิโกะสามารถผ่าน มาดามาเระ อิกคาคุ นักสู้ลำดับ 3 ของหน่วย 11 ส่วนกันจูผ่าน อายาเซะงาว่า ยูมิจิกะ นักสู้ลำดับ 5 ของหน่วย 11ได้ตามลำดับ ต่อจากนั้นก็พบกับ ยามาดะ ฮานาทาโร่ นักสู้ลำดับ 7 ของหน่วย 4 ซึ่งต้องการจะช่วยลูเคียออกมา ในระหว่างทางที่ไปหอสำนึกผิด พวกอิจิโกะได้ล้างตากับ อาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 อีกครั้ง กว่าจะผ่านไปได้ก็เล่นเอาอิจิโกะเจ็บหนัก

-แช้ด สามารถกำจัดนักสู้ลำดับ 3ในหน่วย8ได้ ต่อมา เขาก็แพ้ เคียวราคุ ซุนซุย หัวหน้าหน่วย 8 และ ต้องถูกนำตัวไปขัง
ระหว่างนั้น ที่โซลโซไซตี้ก็เกิดเรื่องวุ่นวาย เมื่อ ไอเซ็น โซสึเกะ หัวหน้าหน่วย 5 ถูกลอบสังหารอย่างเป็นปริศนา ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น ระหว่าง ฮินาโมริ โมโมะ รองหัวหน้าหน่วย 5 กับ คิระ อิซึรุ รองหัวหน้าหน่วย 3 แต่ ฮิซึกายะ โทชิโร่ กับ มัตซึโมโตะ รันงิคุ หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วย 10 ห้ามเอาไว้ทัน และตัดสินใจจับฮินาโมริ ขังคุก
อย่างไรก็ตาม ฮินาโมริ หนีออกมาได้ และ เผชิญหน้ากับฮิซึกายะอีกครั้ง โดยเธอเข้าใจผิด คิดว่า ฮิซึกายะเป็นคนสังหารไอเซ็น จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น โดยฮิซึกายะอัดฮินาโมริจนสลบ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ฮิซึกายะ เริ่มสงสัยในตัว อิชิมารุ งิน หัวหน้าหน่วย 3 ซึ่งท่าทางมีพิรุธ คาดว่ามีส่วนรู้เห็นกับการตายของไอเซ็นอย่างแน่นอน
-อีกด้านหนึ่ง อิจิโกะที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ต้องสู้กับ หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เคมปาจิ โดยปล่อยให้ฮานาทาโร่ และ กันจูหนีไป ขณะต่อสู้ อิจิโกะก็ได้รู้ซึ้ง เข้าใจในซันเงสึ(ชื่อดาบฟันวิญญาณของอิจิโกะ) อิจิโกะสามารถเอาชนะได้ แต่บาดเจ็บหนักจนลุกขึ้นไม่ไหว โยรุอิจิก็มาช่วยรักษาให้จนหายดี อิจิโกะไม่รอช้าก็ได้รีบไปช่วยลูเคีย
-ส่วนกันจูที่ได้ไปพบลูเคียแล้ว ก็ได้เผชิญหน้ากับ คุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 ซึ่งเบียคุยะใช้ เซ็มบ้งซากุระ จัดการกันจูอย่างง่ายดาย แล้วอิจิโกะก็มาช่วย แต่ทว่าโยรุอิจิก็ได้พาตัวอิจิโกะกลับไป ส่วนฮานาทาโร่และกันจูก็ถูกจับขังคุก
-ทางฝ่ายของ อุริว กับโอริฮิเมะ หลังจากผ่านคู่ต่อสู้มานับต่อนัก จนในที่สุดพวกเขาก็พบกับ คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วย 12 และ คุโรซึจิ เนม รองหัวหน้าหน่วย 12 โดยอุริวขอเป็นคนสู้เอง โดยให้อารามากิ นักสู้หน่วย 11 ที่บังเอิญผ่านมาพอดีพาตัวโอริฮิเมะไป ระหว่างการต่อสู้ อุริวทุ่มสุดตัวจนใช้พลังควินซี่ไปจนหมด สามารถผ่านมายูริได้อย่างเหนื่อย แต่พอไปถึงหอสำนึกกลับเจอ โทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วย 9 ฟันจบสลบ จึงถูกจับขังคุกเหมือนกับแช้ด
- ในระหว่างนั้น อิจิโกะได้ฝึกฝน "บังไค" หรือ "การปลดปล่อยสวัสดิกะ"กับซันเงสึ ภายในเวลา 3 วัน ขณะเดียวกัน เรนจิก็คิดทรยศไปช่วยลูเคีย ซึ่งเขาก็ต้องสู้กับ เบียคุยะ แต่เรนจิที่ปลดปล่อยสวัสดิกะได้นั้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของฮานาทาโร่กับริคิจิ ทำให้เขาฟื้นขึ้นมา และมุ่งหน้ายังลานประหาร
  




    อีกด้านหนึ่ง เคมปาจิได้พาโอริฮิเมะไปช่วย กันจู แช้ด และอุริว และทั้งหมดไปหยุดการประหารลูเคีย แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับโทเซ็น และโคมามูระ ซาจิน หัวหน้าหน่วย 7 ซึ่งเคมปาจิก็เอาชนะโทเซ็นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเคมปาจิจะฆ่าโทเซ็น โคมามูระก็ได้มาขวางไว้ จนหน้ากากแตกเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา โคมามูระจึงปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่พอสู้ได้ไม่นาน โคมามูระก็หนีไปดื้อๆ ขณะเดียวกัน การประหารลูเคียได้เริ่มขึ้น แต่แล้วอิจิโกะก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับทำลายแท่นประหารได้สำเร็จ ส่วนเร็นจิที่ตามมาทีหลัง ก็พาลูเคียหนีไป อิจิโกะจึงเข้าสู้กับเบียคุยะ ทั้งสองปล่อยพลังกันเต็มที่ และ อิจิโกะ ก็ใช้ความสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะที่ฝึกในระยะเวลาอันสั้นและ ใช้ร่างฮอลโล่ของตน ก็เอาชนะเบียคุยะได้สำเร็จ
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะด้านหนึ่งไอเซ็น หัวหน้าหน่วย 5 ที่ใครๆคิดว่าตายไปแล้ว เขาผู้ซึ่งต้องการอยากได้โฮเงียคุซึ่งอยู่ในตัวลูเคีย เริ่มก่อการกบฎ ด้วยการสังหารคนใน 46 วังกลาง จากนั้นจึงทำร้าย ฮินาโมริ จนได้รับบาดเจ็บปางตาย จน ฮิซึกายะ เห็นเข้า เลยปลดปล่อยความโกรธออกมาด้วย "บังไค"(ปลดปล่อยสวัสดิกะ) แต่ก็สู้ไม่ได้เลย จากนั้น ไอเซ็นได้ตามไปหาเร็นจิ เพื่อชิงลูเคียมา แต่ อิจิโกะ และ เร็นจิ พยายามขัดขวางถึงที่สุด แต่ไม่สำเร็จ หลังจากที่ไอเซ็นได้โฮเงียคุมาครองแล้วก็ได้ให้ อิชิมารุ งิน ฆ่าลูเคีย แต่เบียคุยะกลับมาขวางทำให้ลูเคียรอดตาย และ หัวหน้าหน่วยทั้งหมดรวมไปถึง โยรุอิจิ ,จิดันโบ ,คูคาคุ พยายามหยุดพวกไอเซ็นแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ไอเซ็น,งิน,โทเซ็น จึงสามารถหนีออกไปได้
หลังจากนั้น ลูเคียได้รู้ความจริงจากเบียคุยะว่าตนเป็นน้องสาวของฮิซานะ ศรีภรรยาของเขาเอง ส่วนพวกของอิจิโกะก็กลับโลกมนุษย์ตามเดิม ปล่อยให้ลูเคียอยู่โซลโซไซตี้ต่อไป......

                         โปรดติดตามตอนต่อไป......................ครับ